“Hamburger” หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “Burger” เป็นอาหารที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ทว่าแฮมเบอร์เกอร์มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานถึงสี่ร้อยปีมาแล้ว นอกจากนี้หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า “ทั้ง ๆ ที่ชื่อว่าแฮมเบอร์เกอร์ แต่ทำไมถึงไม่มีแฮมล่ะ” วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันค่ะ
แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกับแซนด์วิช ประกอบด้วยเนื้อสัตว์เป็นแผ่น แต่เดิมใช้เป็นเนื้อวัวบด ผัก ซอส และประกบด้วยขนมปังสองแผ่น ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากคนทุกเชื้อชาติ และสะดวกสบายขณะกินทำให้เบอร์เกอร์กลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าแฮมเบอร์เกอร์จะโด่งดังในฐานะจังก์ฟู้ดยอดนิยมของชาวอเมริกัน ทว่าไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอเมริกาอย่างที่คิด เพราะจุดเริ่มต้นของแฮมเบอร์เกอร์เกิดขึ้นที่เมืองฮัมบวร์ค(Humburg) ประเทศเยอรมนี ราวศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ ในตอนนั้นชาวรัสเซียได้นำเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาขาย ผู้คนสมัยนั้นนิยมนำเนื้อบดไปหมักกับเครื่องเทศ ปั้นให้เป็นทรงกลมแบนและนำไปย่างให้สุกบนกระทะ จนเริ่มเป็นที่แพร่หลายอย่างมาก
จนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 18 สูตรของเนื้อบดย่างก็ติดตัวไปพร้อมกับชาวเยอรมันที่ย้ายถิ่นฐานไปยังอเมริกา และต่อมาก็เริ่มมีการนำขนมปังสองชิ้นมาประกบกันเพื่อให้กินสะดวกมากขึ้น จึงเป็นต้นกำเนิดของ “แฮมเบอร์เกอร์” ที่เราคุณเคยกัน
ดังนั้นแฮมในที่นี้จึงไม่ใช่หมูแฮม แต่มีรากศัพท์มาจากคำว่า “Hamburg” ซึ่งเป็นชื่อเมืองต้นกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์นั่นเอง
เราเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่หลงใหลในรสชาติของแฮมเบอร์เกอร์มาก หรือจะเรียกว่าเป็น Burger Lovers ก็ว่าได้ ปกติแล้วแฮมเบอร์เกอร์ไม่ใช่ตัวเลือกแค่ในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น แต่ยังเป็นเมนูที่ทำให้เราละเลียดและดื่มด่ำไปกับรสชาติได้อีกด้วย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากลองกินเบอร์เกอร์จากทั่วโลกที่ไม่เคยกินมาก่อนด้วยค่ะ
ในปัจจุบันมีการนำแฮมเบอร์เกอร์มาดัดแปลงไม่ว่าจะเป็นซอส เครื่องเทศ หรือแม้กระทั่งเนื้อสัตว์ที่มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น เช่น เนื้อไก่บด ไก่ทอด เนื้อปลา และเบคอน เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของคนทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการคิดสูตรเฉพาะและตั้งชื่อเมนูขึ้นใหม่ เช่น เบอร์เกอร์โฮมเมดฝีมือคนไทยอย่าง “Bergur Bro” เมนูซิกเนเจอร์ชื่อเดียวกับร้าน เป็นเบอร์เกอร์เนื้อและเบคอนรมควันฉ่ำ ๆ ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้านที่ทำใหม่ชิ้นต่อชิ้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะ
Comments